วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อาหารสมองเด็ก

“ดนตรี..ขนมหวาน
อาหารสมองเด็ก : Sound & Learn”

“ดนตรีกับเด็ก” นั้น เป็นสิ่งที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว
เด็กทุกคนจะตอบสนองต่อจังหวะและเสียงดนตรีได้เองโดยอัตโนมัติ เราจะสังเกตเห็นได้ว่า เมื่อเด็กได้ยิน
เสียงเพลงที่มีท่วงทำนองถูกใจและจังหวะที่สนุก เด็กก็จะเคลื่อนไหวร่างกายและกระโดดโลดเต้นอย่างมี
ความสุขสนุกสนาน ที่เป็นเช่นนี้เพราะโดยธรรมชาติแล้วดนตรีสามารถตอบสนองความต้องการทางด้าน
ร่างกาย อารมณ์ จิตใจและสังคมของเด็กได้โดยตรง และดนตรียังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยส่งเสริม
พัฒนาการในด้านต่างๆ ของเด็กได้อีกด้วย ดังนี้

ดนตรีช่วยพัฒนาร่างกาย
เมื่อเด็กได้ยินเสียงดนตรี เขาจะกระโดดโลดเต้น ยักเอวยักไหล่เข้ากับจังหวะดนตรี หรืออาจ
จะร้องเพลงและเล่นดนตรีตามจังหวะ เด็กเล็กๆ ชอบที่จะเคลื่อนไหวร่างกายประกอบเพลง ซึ่งกิจกรรมนี้
ช่วยให้เด็กๆ ได้ใช้กล้ามเนื้อเล็กและกล้ามเนื้อใหญ่เกือบทุกส่วนของร่างกาย และยังได้ออกกำลังกาย
อีกด้วย

ดนตรีช่วยพัฒนาอารมณ์และจิตใจ
กิจกรรมดนตรีเป็นสื่อเร้าให้เด็กๆ ได้แสดงออกทางอารมณ์ เช่น อารมณ์สนุกสนาน ตื่นเต้น
พอใจ สงบ ฯลฯ อารมณ์ความรู้สึกของคน มีขึ้นมีลงคล้ายท่วงทำนองของเสียงดนตรี ดนตรีที่มีจังหวะเร็ว
จะทำให้เด็กๆ มีอารมณ์แจ่มใส จิตใจเบิกบาน ขณะที่ดนตรีที่มีจังหวะช้าจะทำให้เด็กมีอารมณ์
ผ่อนคลาย มีสมาธิและช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้สงบเยือกเย็น

ดนตรีช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม
กิจกรรมดนตรีแบบกลุ่ม เช่น การร้องเพลง เต้นระบำ รำละคร หรือเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ ในวัย
เดียวกัน มีการผลัดกันเป็นผู้นำ - ผู้ตาม ช่วยให้เด็กเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นและรู้จักการปรับตัว
ให้เข้ากับผู้อื่นได้ดีขึ้น
กิจกรรมดนตรีแบบเดี่ยว เช่น การร้องเพลง เล่นดนตรีหรือเต้นรำคนเดียวต่อหน้าคนอื่น
ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านสังคม เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ยอมรับ
ของผู้อื่น รวมทั้งช่วยพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองและพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กไปในตัวด้วย ข้อควร
คำนึงสำหรับการทำกิจกรรมดนตรีแบบเดี่ยวก็คือ ผู้ใหญ่ต้องระวังไม่ให้กิจกรรมนี้เป็นลักษณะ “ฉันเก่ง
คนเดียว” หรือ “one man show”

ดนตรีพัฒนาสมอง
สมองของเราเป็นอวัยวะที่มหัศจรรย์ที่ทำงานหนักตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยทำหน้าที่เป็น
กองบัญชาการของระบบประสาทส่วนกลางทั้งหมดและควบคุมการรับรู้ประสาทสัมผัสต่างๆ ความรู้สึก
นึกคิด อารมณ์และการเคลื่อนไหวของอวัยวะต่างๆ
สมองของเรานั้นมี ๒ ซีก คือ ซีกซ้ายจะเกี่ยวกับทางตรรกศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
และการคิดเชิงวิเคราะห์ ซีกขวาเกี่ยวกับเรื่องของสุนทรียศาสตร์ ดนตรี ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์
จินตนาการต่างๆ
ดนตรีเปรียบเหมือน “ขนมหวาน” ที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสมองของเด็กโดยตรง เพราะ
กิจกรรมดนตรีเป็นกิจกรรมที่ทำให้สมองของเด็กทั้งสองซีกทำงานอย่างสมดุล คือช่วยพัฒนาสมองซีก
ซ้ายและซีกขวาให้ทำงานไปพร้อมๆ กัน เพราะขณะฟังดนตรีเด็กจะรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และปล่อย
ความคิดจินตนาการไปตามบทเพลง ซึ่งส่งผลดีต่อสมองซีกขวา ส่วนตัวโน้ตหรือจังหวะเคาะของดนตรีที่
คล้ายกับการอ่านหนังสือแต่ละตัว ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองซีกซ้ายด้านภาษาและคณิตศาสตร์

เวลาที่เด็กได้ฟังดนตรี สมองต้องผ่านขั้นตอนการทำงานดังนี้

ได้ยินเสียง => เสียงเดินทางผ่านโสตประสาท => เข้าสู่สมอง => สมองแปลความหมายของเสียงที่ได้ยิน

การเลือกเพลงสำหรับเด็ก
๑. เพลงที่มีเนื้อร้อง
เพลงที่มีเนื้อร้องสำหรับเด็กนั้น ทำนองของเพลงจะต้องอยู่ในระดับเสียง c-c (๑ octave)
เนื้อหาของเพลงจะต้องสั้นและง่าย ใช้ถ้อยคำสุภาพ ใช้คำซ้ำๆ และคำศัพท์ในเนื้อเพลงต้องไม่ยากเกิน
ความเข้าใจของเด็ก สาระของเนื้อเพลงควรพูดถึงเรื่องที่ใกล้ตัวเด็ก เช่น ครอบครัว โรงเรียน พืช สัตว์
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เป็นต้น

ตัวอย่างเพลงที่เกี่ยวกับสัตว์
เพลงระบำไดโนเสาร์
คำร้องและทำนองโดย ดร.แพง ชินพงศ์
ดูซิดูเจ้าไดโนเสาร์ มันมีคอย๊าวยาว ชอบส่ายคอยึกยัก
อาย อ๊าย อาย ไม่ต้องอาย มาเต้นระบำไดโนเสาร์
ดูซิดูเจ้าไดโนเสาร์ มันบินขึ้นบินลง ส่ายสะโพกดุ๊กดิ๊ก
อาย อ๊าย อาย ไม่ต้องอาย มาเต้นระบำไดโนเสาร์
ดูซิดูเจ้าไดโนเสาร์ มันส่ายพุงอ้วนกลมเต้นระบำฮาวาย
อาย อ๊าย อาย ไม่ต้องอาย มาเต้นระบำไดโนเสาร์

. เพลงบรรเลง แบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภท คือ
๑) เพลงบรรเลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะช้า
ดนตรีเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึก การที่ให้เด็กฟังดนตรีไทยเดิม หรือดนตรี
คลาสสิคที่มีท่วงทำนองช้าไพเราะและมีเสียงธรรมชาติประกอบ เช่น เสียงนก เสียงฝนตกเบาๆ หรือเสียง
น้ำไหล จะมีผลต่อพัฒนาการทางสมอง อารมณ์และจิตใจของเด็กโดยตรง ดนตรีที่มีท่วงทำนองและ
จังหวะช้าจะกระตุ้นคลื่นสมองให้เด็กเกิดความสงบผ่อนคลายและเพิ่มสมาธิในการทำงาน เสียงดนตรี
บรรเลงที่มีท่วงทำนองช้าและไพเราะนี้จะช่วยส่งผลดีต่อการทำงานของสมองส่วนอารมณ์ที่เรียกว่า
นีโอคอร์เท็กซ์ ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ลึกซึ้งที่เกี่ยวกับ IQ คือ ความคิดสร้างสรรค์ และการคิดอย่างลึกซึ้ง
เพราะดนตรีไทยเดิมและดนตรีคลาสสิค เป็นดนตรีที่มีความละเอียดอ่อนซับซ้อน ทำให้เด็กสามารถคิด
อย่างเป็นระบบมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่อง EQ คือการเรียนรู้ทางสังคมและการปรับตัวเข้ากับ
ผู้อื่น ซึ่งจะทำให้เด็กมีความเข้าใจตนเอง สิ่งแวดล้อมและผู้อื่นมากขึ้น

ตัวอย่างเพลงบรรเลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะช้าที่เหมาะสำหรับเด็ก
ชื่อเพลง ชื่อผู้แต่ง
เพลงลาวดวงเดือน พระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าเพ็ญพัฒน์พงศ์
กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม
เขมรไทรโยค สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัตติวงศ์
Jesu Joy of Man’s Desiring Bach
Clair de Lune Debussy

๒) เพลงบรรเลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะเร็ว
เด็กๆ จะมีความสุขและรู้สึกสนุกเมื่อได้ยินเพลงหรือดนตรีที่มีท่วงทำนองและจังหวะที่เร็ว
ดนตรีประเภทนี้จะพัฒนาสติปัญญา (IQ) เด็ก ในเรื่องของความจำ คณิตศาสตร์และภาษา เพราะดนตรี
ก่อให้เด็กเกิดความสนใจและกระตือรือร้นในการที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัว อีกอย่างหนึ่งคือดนตรีที่มี
จังหวะเร็ว ยังช่วยให้เด็กอยากเคลื่อนไหวร่างกาย กระโดดโลดเต้นตามท่วงทำนองและจังหวะของดนตรี
ซึ่งช่วยในการพัฒนาร่างกายของเด็กโดยตรง นอกจากนี้ดนตรีประเภทนี้ยังพัฒนาความฉลาดทาง
อารมณ์ (EQ) ของเด็กด้วย เพราะขณะที่เด็กได้ฟังและเคลื่อนไหวไปตามบทเพลง เด็กจะมีอารมณ์ร่าเริง
แจ่มใส มีความสุขและรู้สึกสนุกสนาน เป็นตัวของตัวเอง

ตัวอย่างเพลงบรรเลงที่มีท่วงทำนองและจังหวะเร็วที่เหมาะสำหรับเด็ก
ชื่อเพลง ชื่อผู้แต่ง
พม่าเขว ทำนองไทยโบราณ
ค้างคาวกินกล้วย ทำนองไทยโบราณ
Piano Sonata in A Major Mozart
Grande Valse Brillante in E Flat Major Chopin

เอกสารอ้างอิง
แพง ชินพงศ์. ๒๕๔๘. ดนตรีเพิ่มพลังสมอง. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แฮบปี้ แฟมิลี่ :
๒๕๔๙. ดนตรีแสนสุข. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์แฮปปี้ แฟมิลี่ :

We can help our children learn alternative
ways of handling their emotions that won’t
get them into trouble with us or others.
Learning to talk about their feelings will
work better for them than throwing things.
ขอบคุณความรูดีๆ จาก
ดร.แพง ชินพงศ์
นักวิชาการอิสระ
ที่มา : http://www.cf.mahidol.ac.th

ดนตรีกับพัฒนาการเด็ก...

ดนตรีดีกับพัฒนาการเด็ก : เด็ก พัฒนาการเด็ก ดนตรี จินตนาการ เล่นดนตรี

ดนตรีดีกับพัฒนาการ
ดนตรีเป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ยุคใหม่ให้ความสนใจอย่างมาก บางคนอยากให้ลูกเป็นนักดนตรี อยากให้ลูกชอบดนตรี หรือให้เล่นดนตรีเพื่อเป็นกิจกรรมเสริมที่ช่วยให้ผ่อนคลายก็ว่ากันไปค่ะ แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตามดนตรีมีประโยชน์ในตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าลูกจะ ร้อง เล่น เต้นระบำ ก็เป็นผลดีกับพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยทั้งนั้น


จินตนาการกว้างไกล
เด็กที่ได้สัมผัสดนตรีจะเป็นคนที่ละเอียดอ่อน อ่อนโยน มีจินตนาการกว้างไกล เพราะเสียงดนตรี ช่วยให้เกิดจินตนาการได้โดยไม่จำกัด ยิ่งเป็นดนตรีบรรเลงด้วยแล้วจะช่วยให้เกิดจินตนาการได้ดีกว่าดนตรีที่มีคำ ร้องค่ะ อีกอย่างหนึ่งดนตรีมีผลต่อการพัฒนาอารมณ์ของเด็กด้วยนะคะ เด็กที่เล่นดนตรีจะใจเย็น ดนตรีจะช่วยให้เขามีสมาธิ มีความอดทนและช่วยฝึกความจำไปด้วยในตัว

คิดเก่งแบบมิติสัมพันธ์
การ คิดเชิงมิติสัมพันธ์ เป็นยังไงน่ะเหรอ ก็คือการมองเห็นภาพความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนด้วยความคิด ความรู้สึก หรือใจของเรา แล้วก็ถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นได้รู้เป็นภาพ เป็นแผนผัง หรือเป็นคำอธิบาย พูดง่ายๆ ก็คือการคิดเป็นภาพแทนตัวอักษรน่ะค่ะ ยังไม่เห็นภาพใช่มั้ยล่ะคะ งั้นจะยกตัวอย่างเพิ่มเติมนะคะ อย่าง เวลาเล่นหมากรุก เราจะต้องคิดวางแผนในใจ ว่าเราจะเอาชนะเกมนี้ได้อย่างไร ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้เราเห็นภาพเกมการเดินหมากรุกในใจได้ แจ่มแจ๋ว แล้วเมื่อเรานำแผนนั้นมาเล่นจริงๆ ก็ชนะจริงๆ ซะด้วย นั่นล่ะค่ะความสามารถด้านมิติสัมพันธ์ หรือ การที่เราขับรถแล้วไม่หลงทาง แล้วยังจำได้ว่าถ้าเข้าซอยนั้นจะลัดออกซอยนี้ทะลุไปเส้นนั้นเส้นนี้ได้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความสามารถของมิติสัมพันธ์เช่นกันค่ะ

ได้ยินชัดแจ๋ว
ดนตรีจะช่วยเรื่องการได้ยิน เพราะเวลาที่เด็กได้ยินเสียงดนตรีซึ่งมีลักษณะเสียงสูงๆ ต่ำๆ ก็จะรับความถี่ของคลื่นเสียงที่แตกต่างกันไปด้วย สมองซึ่งรับรู้เกี่ยวกับการได้ยินจึงถูกพัฒนาตาม การฟังดนตรีจึงเป็นการเตรียมการได้ยินในเด็กค่ะ และพ่อแม่คือบุคคลที่จะทำให้วงจรการพัฒนานี้สมบูรณ์ขึ้นได้โดยให้ลูกได้ฟัง เสียง แต่ต้องเป็นเสียงที่มีคุณภาพหน่อยนะคะ ถ้าเสียงพูดก็พูดชัด เสียงเพลงก็เลือกเพลงที่ฟังสบายๆ คุณภาพเสียงดีๆ เพื่อจะได้ฝึกการออกเสียงตามและออกเสียงได้ถูกต้อง
การ ฟังจำเป็นอย่างมากนะคะ เพราะเป็นการเตรียมเรื่องภาษาและการสื่อสารในอนาคต ยิ่งเด็กวัย 3-6 ขวบเริ่มที่จะพูดได้เป็นประโยคแล้วด้วย ถ้าศักยภาพการได้ยินและฟังสูง เขาก็จะเก็บคำศัพท์จากเสียงที่จะเปล่งออกมา ทำให้เด็กได้เลียนเสียงพูด และพัฒนาการทางด้านการพูดจะดีขึ้นด้วย


ขอบคุณความรู้ดีๆจาก http://th.88db.com

วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2553

การแต่งเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย

สวัสดีเพื่อนๆ ที่เข้ามาเยี่ยมบล็อกนี้นะคะ...

เราอยากรู้ว่าเพื่อนๆ มีหลักการ หรือ วิธีการอย่างไรในการแต่งเพลงสำหรับเด็กปฐมวัยเมื่อ

วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2553

คำแนะนำ สำหรับเด็กที่มีพัฒนาการทางภาษาล่าช้า

พัฒนาการทางภาษาเป็นสิ่งที่เด็กจะต้องเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อมขณะได้รับการเลี้ยงดู ดังนั้นผู้เลี้ยงดูเด็กจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทหลักในการส่งเสริมพัฒนาการ และในรายที่เด็กมีพัฒนาการด้านนี้ล่าช้ายิ่งจำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นมากกว่าปกติ สิ่งที่ผู้เลี้ยงดูเด็กสามารถปฎิบัติเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการทางภาษา มีดังต่อไปนี้

1 พัฒนาความเข้าใจภาษา
การฟัง

การพูดคุยกับเด็กในสิ่งที่เด็กกำลังสนใจมองหรือเล่นในชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อเขาชี้ไปที่นม ควรพูดว่า " นม " ก่อนจะให้สิ่งที่เค้าต้องการทุกครั้ง เวลาใส่เสื้อผ้า และจับที่แขน/ขา ควรพูดว่า แขน/ขา หรือเวลาอ่านหนังสือนิทาน เห็นรูปสัตว์ สิ่งของหรือ ต้นไม้ ก็ควรพูดสิ่งนั้นให้เขาฟัง นอกจากนี้ ควรฝึกให้เขาจำชื่อของเขาให้ได้โดยกี่เรียกชื่อพร้อมจับตัวหรือเล่นกับเขา การทำตามคำสั่งโดยมีท่าทางประกอบ(ชี้ หรือมองไปที่สิ่งของ)

ฝึกให้เด็กทำตามคำสั่ง โดยในช่วงแรกถ้าเด็กไม่ทำตาม ให้สั่งอีกครั้งพร้อมจับมือเด็กทำ เมื่อเด็กได้ทำสม่ำเสมอ ควรสั่งให้เด็กทำตามพร้อมค่อย ๆ ลดท่าประกอบเพื่อฝึกให้เขาเข้าใจในสิ่งในสิ่งที่ผู้เลี้ยงดูพูด

ฝึกให้เด็กชี้อวัยวะต่าง ๆ เช่น ปาก หู คอ จมูก ตา เป็นต้น โดยช่วงแรก ๆ สอนทีละอวัยวะ แล้วค่อย ๆ เพิ่มจำนวน และเมื่อเด็กทำได้ดี ควรสอนให้ชี้สิ่งอื่น ๆ เช่น สัตว์สิ่งของ

2 พัฒนาการใช้ภาษาท่าทาง

ผู้เลี้ยงดูควรหมั่นชี้ชวนให้เด็กมองตามสิ่งที่ชี้ให้ดู และค่อย ๆ พัฒนาจนเด็กสามารถชี้ได้เอง หากยังชี้ไม่ได้ ให้กำมือเด็กและเหลือแต่นิ้วชี้ และชี้สิ่งของที่เด็กต้องการ นอกจากนี้การพยักหน้า การส่ายหน้า หรือการแบมือขอ ก็เป็นภาษาท่าทางที่ควรสอนเด็ก

3 ในเด็กที่กำลังหัดพูด

เด็กหลายคนจะพูดเป็นภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง ให้ผู้เลี้ยงดูคาดคะเนว่าเด็กต้องการอะไรแล้วพูดแทนเด็ก เช่น เด็กมาอยู่ที่ประตูพร้อมส่งเสียง ควรพูดว่า " หนูอยากให้เปิดประตู " เพื่อให้เด็กเกิดการเรียนรู้ภาษาที่ใช้สื่อความหมายกับผู้ใหญ่

4 พัฒนาการกล้ามเนื้อปากและอวัยวะสำหรับพูด

ชวนเด็กเล่นขยับปากในรูปแบบต่างๆ กันพร้อมทั้งเปล่งเสียง เช่น ทำปากจู๋ อ้าปากกว้าง ห่อปาก ยิงฟัน เล่นริมฝีปาก (เป่าบร๋อ ๆ) หลังจากนั้นให้เด็กออกเสียงคำต่าง ๆ ที่มีเสียงพยัญชนะ โดยเริ่มด้วย " ม พ บ ป "

5 ลดสิ่งเร้าต่าง ๆ ที่จะดึงเด็กไปให้สนใจ

ซึ่งทำให้เสียเวลาในการกระตุ้นพัฒนาการกับผู้เลี้ยงดู เช่น ปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ แล้วทดแทนด้วยกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา เช่น อ่านหนังสือนิทานด้วยกัน เปิดเพลงพร้อมออกท่าทางประกอบ

ที่มา : พญ. นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม โรงพยาบาลกรุงเทพ
http://chenson.multiply.com

ดนตรีช่วยแก้ปัญหา

วันนี้เราขอเผยแพรความรู้ที่น่าสนใจให้เพื่อนๆ ได้รู้กัน
ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆ ที่กำลังจะไปเป็นครูมืออาชีพในอนาคต...
ดนตรีช่วยแก้ปัญหาเด็กสมาธิสั้นได้จริงหรือ ?
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันว่าแบบไหนที่เรียกว่าเด็กสมาธิสั้น...?
เด็กสมาธิสั้น ( Hyperactive) หมายถึง เด็กที่ซนมากไม่อยู่นิ่ง แยกได้ 2 กลุ่มคือ

1. มีปัญหาเรื่องสมาธิบกพร่อง เช่น มีความลำบากในการฟังคำสั่งยาวๆ มีความลำบากในการทำงานหรือเล่นกิจกรรม อุปกรณ์การเรียนสูญหายบ่อย สนใจในสิ่งเร้าที่ไม่สำคัญ ขี้ลืม มักทำของหาย เหม่อลอย ช่างฝัน ลำบากในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมองเป็นเวลานาน

2. อาการหุนหันพลันแล่นจนขาดความยับยั้งชั่งใจ ซึ่งมีลักษณะคือ ไม่รู้จักระวังตัวเอง ลุกออกจากที่นั่งบ่อย ชอบวิ่งหรือปีนป่าย พูดคุยมากเกินไป มีความลำบากในการเล่นคนเดียว ลุกลี้ลุกลน อารมณ์ร้อนแปลี่ยนแปลงง่าย ขาดความอดทน ชอบพูดขัดจังหวะ รบกวน ช่างฟ้อง

***สาเหตุส่วนใหญ่ มาจาก ลักษณะถ่ายทอดทางพันธุกรรมในเรื่องของสารเคมีในสมองหรือระบบประสาทและ สภาพแวดล้อมก็เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง

ดนตรีช่วยแก้ปัญหาเด็กสมาธิสั้นได้จริงหรือ ?

ดนตรีมีประโยชน์มากมาย การฟังดนตรีทำให้เราผ่อนคลาย เพลิดเพลิน มีความสุข หากเราได้เล่นดนตรีก็ยิ่งเป็นการปลดปล่อยความเครียดที่ฝังอยู่ตามกล้ามเนื้อและเซลล์ประสาทให้ออกมากับการเล่นดนตรี ทำให้อารมณ์ดีขึ้น สามารถควบคุมอารมณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ความเฉลียวฉลาดทางอารมณ์ EQ สูงขึ้น

และเมื่อเด็กเรียนดนตรี เด็กจะมุ่งความสนใจไปที่เสียงดนตรีที่ตนเองสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เด็กจะเกิดความภาคภูมิใจในความสามารถของตนเอง และอยากจะเล่นดนตรีต่อไปเพื่อให้เกิดเสียงที่ไพเราะขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กจดจ่ออยู่กับเสียงดนตรีที่ตนเองสร้างขึ้น ช่วงความสนใจของเด็กก็จะเพิ่มมากขึ้นทีละนิด ขี้นอยู่กับทำนองเพลงที่เด็กฝึกหัด เมื่อเริ่มแรกเด็กอาจฝึกหัดเพลงพื้นฐานสั้นๆ ช่วงความสนใจของเด็กอาจอยู่ในเวลา 1-2 นาที ลำดับต่อไปเด็กได้ฝึกเพลงที่มีความซับซ้อนมากขึ้นทีละนิด เด็กก็จะมีช่วงของความสนใจเพิ่มขึ้นเป็น 3-5 นาที และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากเด็กชอบและรักที่จะเล่นดนตรี

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกำลังใจที่ครูผู้สอนและพ่อแม่ผู้ปกครองจะกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจในดนตรีมากขึ้น การเสริมแรงจากครูและพ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะทำให้เด็กเพิ่มความสนใจในดนตรี และจะทำให้ช่วงความสนใจของเด็กเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลไปสู่การเรียนในห้องเรียน การทำการบ้าน การอ่านหนังสือ หรือการทำสิ่งต่างๆ

จากที่โรงเรียนดนตรีบ้านเก่งขิมได้สอนเด็กที่มีอาการเข้าข่ายสมาธิสั้น หรือมีช่วงความสนใจต่อสิ่งต่างๆ น้อยมาก เมื่อมาเรียนขิม เด็กหลายคนมีสมาธิดีขึ้น มีสภาวะอารมณ์ที่ดีขึ้น มีการระบายอารมณ์ออกมาในเสียงเพลงที่ตนบรรเลง ทำให้เด็กผ่อนคลายและเกิดสมาธิในการบรรเลงขิม ส่งผลให้การเรียนในห้องเรียน หรือการทำกิจกรรมต่างๆ ของเด็กประสบความสำเร็จมากขึ้นตามลำดับ

คุณพ่อคุณแม่หรือท่านผู้ปกครอง จึงควรหันมามองบุตรหลานของท่านสักนิด ว่าเด็กมีอาการใกล้เคียงเด็กสมาธิสั้นหรือไม่ หากใกล้เคียงควรปรึกษาแพทย์ หรือส่งเสริมให้เด็กเรียนดนตรี ศิลปะ ร้องเพลง เต้นรำหรือนั่งสมาธิ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้เด็กมีสมาธิเพิ่มมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการให้เด็กดูโฆษณาที่มีภาพเคลื่อนไหวเปลี่ยนไปมารวดเร็ว เนื่องจากภาพเหล่านั้นจะไปกระตุ้นสมองทำให้เด็กมีภาวะสมาธิสั้นได้ง่าย

อาการสมาธิสั้นสามารถบำบัดรักษาให้ดีขึ้นได้ เพียงแค่พ่อแม่ผู้ปกครองต้องให้ความเอาใจใส่กับเด็ก พูดคุย ซักถาม ให้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันกับเด็ก ไม่ดุว่าหรือตี เพราะจะทำให้เด็กจดจำประสบการณ์ที่ไม่ดี และเด็กจะไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิด เนื่องจากอาการต่างๆ มาจากความผิดปกติของสมองหรือสารเคมีของร่างกาย ซึ่งตัวเด็กเองไม่สามารถควบคุมได้ พ่อแม่ผู้ปกครองและครูจึงเป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดที่สามารถช่วยให้เด็กมีอาการดีขึ้นหรือหายขาดได้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่

(ที่มา : http://www.baankengkhim.com)

รู้อย่างนี้แล้วการเป็นครูมืออาชีพของเพื่อนๆ ในอนาคตก็ไม่ยาก และบทความนี้เพื่อนๆ ก็สามารถนำไปใช้ทำประโยชน์ในการจัดประสบการณ์ให้กับเด็กตัวน้อยๆ ได้อย่างมีความสุขแน่นอน